ระดับชุดปฏิบัติงานสารเคมี

ชุดปฏิบัติงานสารเคมี มีการแบ่งระดับตามความสามารถในการป้องกันสารเคมีอย่างชัดเจนคือ ชุดปฏิบัติงานสารเคมี ระดับ A, B, C และ D ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักบริหารการป้องกันสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสหรัฐฯ (EPA) ทั้งนี้ เสื้อผ้าและอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ในแต่ละระดับจะใช้ในการปฏิบัติงานขั้นเริ่มต้นของสถานการณ์ที่ระบุไว้ แต่หากปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลงในทางที่เลวร้ายขึ้นก็ต้องเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันของเสื้อและอุปกรณ์เป็นระดับที่สูงขึ้น เช่น หากมีแนวโน้มความเป็นพิษสูงขึ้นหลังจากปฏิบัติงานไประยะหนึ่ง ควรจะใช้ชุดหมีไทเว็กซ์ (Tyvex coverall)หรือชุดกันกระเซ็นทำด้วยพีวีซี (PVC splash suits) สวมทับชุดป้องกันเดิมที่ใช้ในการทำงานอยู่ก่อนหน้านั้น

ระดับชุดปฏิบัติงานสารเคมี

ชุดป้องกันระดับ A (Level A)

องค์ประกอบหลัก (Principle)

– ชุดป้องกันไอสารเคมี (Vapor protective suit) ที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน NFPA 1991

– เครื่องช่วยหายใจชนิดบรรจุอากาศในตัว (SCBA) ประกอบด้วย ถังอากาศอัดความดันและหน้ากากชนิดเต็มหน้า

– ถุงมือชั้นในชนิดต้านทานสารเคมี (Inner chemical-resistant gloves)

– รองเท้าบู๊ทนิรภัยชนิดต้านทานสารเคมี (Chemical-resistant safety boots)

– วิทยุสื่อสารที่รับและส่งได้ในตัว (Two- way radio communication)

องค์ประกอบเสริม (Optional)

-ระบบทำความเย็น (Cooling system)

– ถุงมือชั้นนอก (Outer gloves) สำหรับสวมทับถุงมือชั้นใน

-หมวกแข็ง (Hard hat)

การป้องกัน (Protection Provide)

– ป้องกันระบบหายใจให้นะระดับสูงสุด

– ป้องกันผิวหนังและตาจากสารเคมีทั้ง ที่เป็นของแข็ง ของเหลวและก๊าซ

ใช้งานเมื่อ (Use When)

– สามารถระบุชนิดของสารเคมีซึ่งมีระดับอันตรายสูงต่อระบบหายใจผิวหนังและตา

– สารที่มีอยู่เป็นที่ทราบหรือสงสัยว่ามีความเป็นพิษต่อผิวหนังหรือสามารถก่อมะเร็งได้

– การปฏิบัติงานจะต้องเข้าไปในพื้นที่อับอากาศ หรือมีการระบายอากาศในระดับต่ำ

ข้อจำกัด (Limitation)

– เนื้อผ้าที่ใช้ป้องกันต้องมีคุณสมบัติต่อต้านการซึมผ่าน (Resist permeation) ของสารเคมีหรือส่วนผสมที่มีอยู่

– องค์ประกอบของชุดป้องกันทั้งหมดจะต้องมีคุณสมบัติเข้ากันได้ (Integration) กับสิ่งแวดล้อมขณะนั้นและประสิทธิภาพการป้องกันต้องไม่ลดลง

ชุดป้องกันระดับ B (Level B)

ชุดปฏิบัติงานสารเคมี

องค์ประกอบหลัก (Principle)

– ชุดป้องกันการกระเซ็นของสารเคมีที่เป็นของเหลว (Liquid splash-protective suit)ที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน NFPA 1992

– เครื่องช่วยหายใจชนิดบรรจุอากาศในตัว (SCBA) ประกอบด้วย ถังอากาศอัดความดันและหน้ากากชนิดเต็มหน้า

– ถุงมือชั้นในชนิดต้านทานสารเคมี (Inner chemical-resistant gloves)

– รองเท้าบู๊ทนิรภัยชนิดต้านทานสารเคมี(Chemical-resistant safety boots)

– วิทยุสื่อสารที่รับและส่งได้ในตัว (Twoway radio communication)

– หมวกแข็ง (Hard hat)

องค์ประกอบเสริม (Optional)

– ระบบทำความเย็น (Cooling system)

– ถุงมือชั้นนอก (Outer gloves) สำหรับสวมทับถุงมือชั้นใน

การป้องกัน (Protection Provide)

– ป้องกันระบบหายใจในระดับเดียวกับชุดป้องกันระดับ A

– ป้องกันผิวหนังในระดับต่ำกว่าระดับชุดป้องกันระดับ A

– ป้องกันกระเซ็นของสารเคมีที่เป็นของเหลว แต่ไม่ป้องกันสารเคมีที่เป็นไอหรือก๊าซ

ใช้งานเมื่อ (Use When)

– สามารถระบุชนิดของสารเคมีได้ แต่ไม่ต้องการการปกป้องผิวหนังในระดับสูง

– มีการสำรวจเริ่มแรกในพื้นที่จนกระทั่งระบุอันตรายในระดับที่สูงขึ้นได้

– สามารถระบุได้ว่าอันตรายหลักในพื้นที่ภายในเป็นอันตรายจากสารเคมีในสถานะของเหลวและไม่ใช่การสัมผัสไอสาร

ข้อจำกัด (Limitation)

– เนื้อผ้าที่ใช้ป้องกันต้องมีคุณสมบัติต่อต้านการซึมผ่าน (Resist permeation) ของสารเคมีหรือส่วนผสมที่มีอยู่

– องค์ประกอบของชุดป้องกันทั้งหมดจะต้องมีคุณสมบัติเข้ากันได้ (Integration) กับสิ่งแวดล้อมขณะนั้น และประสิทธิภาพการป้องกันต้องไม่ลดลง

ชุดป้องกันระดับ C (Level C)

ชุดปฏิบัติงานสารเคมี

องค์ประกอบหลัก (Principle)

– เสื้อผ้าสนับสนุนการป้องกัน (Support Function Protective Garment) ที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน NFPA 1993

– หน้ากากป้องกันเต็มหน้าที่ติดไส้กรองอากาศ (Full-facepiece, air-purifying, canister-equipped respirator)

– ถุงมือป้องกันสารเคมีและรองเท้าบู๊ทนิรภัย (Chemical resistant gloves and safety boots)

– วิทยุสื่อสารที่รับและส่งได้ในตัว (Twoway communications system)

– หมวกแข็ง (Hard hat)

องค์ประกอบเสริม (Optional)

– กระบังหน้า (Faceshield)

– เครื่องช่วยหายใจ SCBA สำหรับการหนี (Escape SCBA)

การป้องกัน (Protection Provide)

– ป้องกันผิวหนังได้ในระดับเดียวกับชุดป้องกันระดับ B

– ป้องกันระบบหายใจได้ในระดับที่น้อยกว่าชุดป้องกันระดับ B

– ป้องกันการกระเซ็นของสารเคมีที่เป็นของเหลวแต่ไม่ป้องกันไอสารหรือก๊าซ

ใช้เมื่อ (Use When)

– เมื่อมีการสัมผัสกับสารเคมีที่ไม่มีผลกระทบต่อผิวหนัง

– มีการตรวจวัดชนิดและปริมาณของสารปนเปื้อนแล้ว

– ไส้กรองที่ใช้กับหน้าสามารถขจัดการปนเปื้อนได้

– มีการระบุลักษณะพิเศษของสารและอันตรายที่มีอยู่ได้

ข้อจำกัด (Limitation)

– เนื้อผ้าที่ใช้ป้องกันต้องมีคุณสมบัติต่อต้านการซึมผ่าน (Resist permeation) ของสารเคมีหรือส่วนผสมที่มีอยู่

– ปริมาณส่วนผสมสารเคมีที่ลอยอยู่ในอากาศจะต้องต่ำกว่าระดับที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพอย่างเฉียบพลัน (IDLH)

– ในบรรยากาศจะต้องมีผสมของก๊าซออกซิเจนไม่น้อยกว่า 19.5%

– ไม่ยอมรับให้ใช้ในปฏิบัติการตอบโต้เหตุฉุกเฉินสารเคมี (Not Acceptable for Chemical Emergency Response)

ชุดป้องกันระดับ D (Level D)

ชุดปฏิบัติงานสารเคมี

องค์ประกอบหลัก (Principle)

– ชุดหมี (Coveralls),

– บู๊ทนิรภัย/รองเท้านิรภัย (Safety boots/shoes)

– แว่นตานิรภัย หรือ ที่ครอบตากันการกระเซ็น (Safety glasses or chemical splash goggles)

องค์ประกอบเสริม (Optional)

– ถุงมือ

– เครื่องช่วยหายใจ SCBA สำหรับการหนี(Escape SCBA)

– กระบังหน้า (Faceshield)

การป้องกัน (Protection Provide)

– ไม่ป้องกันระบบหายใจ

– ป้องกันผิวหนังในระดับต่ำ

ใช้เมื่อ (Use When)

– ในบรรยากาศมีอันตรายไม่ทราบชนิด

– ในพื้นที่มีการปฏิบัติงานได้มีการป้องกันอันตรายต่างๆ ไว้แล้ว เช่น การกระเซ็น การจุ่ม หรือมีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายต่อระบบหายใจหรือการสัมผัสสารเคมีอันตรายโดยตรง

ข้อจำกัด (Limitation)

– ไม่สามารถใช้ในพื้นที่ที่มีความร้อน

– ในบรรยากาศจะต้องมีส่วนผสมของก๊าซออกซิเจน ไม่น้อยกว่า 19.5%

– ไม่ยอมรับให้ใช้ในปฏิบัติการตอบโต้เหตุฉุกเฉินสารเคมี (Not Acceptable for Chemical

Emergency Response)

หมายเหตุ

– ชนิดของอุปกรณ์ที่ใช้และระดับการป้องกันทั้งหมดควรจะได้รับการวัดค่าเป็นระยะๆตามข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์สารเคมีหรือกระบวนการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงกรณีผู้ปฏิบัติงานมีการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิม ทั้งนี้ระดับการป้องกันของบุคลากรจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับการอนมุติของหัวหน้าผู้ปฏิบัติในพื้นที่ (Site supervisor) เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (Safety officer) หรือนักอาชีวอนามัยประจำโรงงาน (Plant industrial hygienist)

– ชุดป้องกันระดับต่างๆ ที่นำเสนอไปแล้วข้างต้น เป็นเพียงการแนะแนวทางเท่านั้นการนำไปใช้ในสถานการณ์จริงจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบว่ามีความเหมาะสมหรือเพียงพอที่จะป้องกันอันตรายที่กำลังเกิดขึ้นซึ่งได้รับการประเมินหรือวัดค่าแล้วหรือไม่โดยมีสิทธิอันชอบธรรมจะโต้แย้งข้อมูลที่ระบุไว้ได้ว่าให้การป้องกันที่ไม่เพียงพอในแต่ละกรณี

– ระดับการป้องกันของชุดป้องกันสารเคมีตาม EPA ไม่ได้ระบุชัดถึงประสิทธิภาพของชุดที่เลือกใช้ว่าจะต้องมีค่าเท่าใด แต่ในส่วนของข้อจำกัดสามารถจะนำมาใช้อ้างอิงได้ อย่างไรก็ตาม สมควรที่จะต้องหาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆรวมทั้งข้อมูลของผู้ผลิตสินค้าเสริมเข้ามาเพื่อให้การตัดสินใจมีความถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น

ที่มา: นิตยสาร safetylife

facebook : Thai-Safetywiki

ติดต่อเรา : Thai-Safetywiki

Visited 1 times, 1 visit(s) today

ใส่ความเห็น

Thai-safetywiki.com
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.