กินหมูดิบ เสี่ยงเป็น “โรคหูดับ”

โรคหูดับเกิดจาก

โรคหนึ่งที่เกิดในหมู ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ปกติจะอยู่ในหมูเกือบทุกตัว และฝังอยู่ในต่อมทอนซิล แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดโรคแต่หากเมื่อใดที่ร่างกายของหมูตัวนั้นอ่อนแอลง เช่นมีการป่วย มันจะฉวยโอกาสทำให้เกิดโรค โดยจะไปกดภูมิคุ้มกันต่างๆ แบคทีเรียจะเพิ่มจำนวน และทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดและทำให้หมูป่วย และถึงตายได้

 

สาเหตุของโรคนี้เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่าเชื้อสเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis)

ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายของคนได้ 2 ทาง คือทางปากเช่นการทานเนื้อหมู เครื่องในหมู หรือเลือดที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุก เช่น ลาบ ลู่ การปิ้งย่างที่ไม่สุก และติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยถลอก เยื่อบุตา จากการสัมผัสโรค หรือหมูที่มีเชื้อ

สังเกตอาการของ “โรคหูดับ” เมื่อได้รับเชื้อโดยจะแสดงอาการภายใน 3 วัน

  •  คนไข้จะมีไข้สูงเฉียบพลัน มากกว่า 38 องศาเซลเซียส หรือเท่ากับ
  •  มีอาการปวดศีรษะ ปวดข้อ คอแข็ง
  •  หนาวสั่น สับสนกระสับกระส่าย
  •  หูหนวกหรือการได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลัน
  •  หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว
  •  ทรงตัวผิดปกติ
  •  มีจ้ำเลือดทั่วตัว
  •  ปวดตา ตาแดง หรือมองภาพไม่ชัด

ความรุนแรงของ “โรคหูดับ”

เมื่อเชื้อเข้าสู่เยื่อหุ้มสมอง ผ่านทางกระแสเลือดจะทำให้

  • ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • ข้ออักเสบ
  • ม่านตาอักเสบ

เนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอยู่ใกล้กับประสาทหูชั้นในทั้งสองข้าง เชื้อจึงสามารถลุกลามและทำให้

เกิดหนองบริเวณปลายประสาทรับเสียง และปลายประสาททรงตัว ส่งผลให้เกิดอาการ

  • หูตึง หูดับ
  • อาการหูหนวก
  • เวียนศีรษะ และเดินเซ

ซึ่งอาการทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นภายใน 14 วัน หลังจากเริ่มมีอาการไข้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และทันท่วงที ผู้ป่วยจะสูญเสียการได้ยิน และอาจเสียชีวิตได้ในเวลาต่อมา

เราสามารถป้องกัน ”โรคหูดับ” ได้โดย

  • หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อหมูดิบ โดยจะต้องปรุงให้สุกด้วยความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส และใช้เวลาอย่างน้อย 10 นาที ก่อนรับประทาน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสเนื้อหมูสด หรือยังไม่ผ่านการปรุงสุก ด้วยการใส่ถุงมือ และต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการนำเนื้อหมูที่ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ มารับประทาน
  • หลีกเลี่ยงการซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาวหรือสีคล้ำ ควรเลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน สะอาด ผ่านการรับรองจากกรมปศุสัตว์ หรือกรมอนามัย
  • หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อันเดียวกันที่ใช้หยิบเนื้อหมูสุกและเนื้อหมูดิบ
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ ท้องเสีย หลังจากการกินเนื้ออาหารสุกๆดิบๆ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

จะเห็นได้ว่า ก่อนทำอาหารทุกครั้งจะต้องให้ความสำคัญในการทำความสะอาดเนื้อสัตว์ และต้องผ่านการปรุงสุก เพื่อช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรีย และความลดเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนของโรคที่อาจตามมา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.sikarin.com/health/streptococcus-suis

 

https://www.paolohospital.com/th-TH/chokchai4/Article/Details/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95

 

https://www.synphaet.co.th/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A/

 

https://www.ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=22526&deptcode=brc

 

Visited 1 times, 1 visit(s) today

ใส่ความเห็น

Thai-safetywiki.com
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.