บำรุงสมอง ลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ด้วย คาร์โนซีน

คาร์โนซีน (Carnosine) เป็นหน่วยย่อยของโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนสองชนิดคือ เบต้า-อะลานีน (β-alanine) และแอล-ฮีสทิดีน (L-Histidine) ที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เอง โดยพบที่สมอง กล้ามเนื้อ หัวใจ ผิวหนัง และส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย คาร์โนซีนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยเสริมการทำงานของสมองและความจำ ช่วยชะลอวัย และอาจช่วยป้องกันหรือรักษาโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน อัลไซเมอร์ และมะเร็งอีกด้วย และยังมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเนื้อเยื่อและเซลล์ของร่างกายจากการเสื่อมสภาพที่เกิดจากเอนไซม์และสารออกฤทธิ์อื่น ๆ แต่ร่างกายจะค่อยๆผลิตลดลงตามอายุที่มากขึ้น 

ประโยชน์ของ คาร์โนซีน โดยสรุปมีดังนี้

  • ทำให้สมองยังคงมีประสิทธิภาพ เพิ่มความจำระยะยาว เพิ่มการทำงานของสมองส่วนหน้า
  • ช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคความจำเสื่อม และโรคพาร์กินสัน ที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ 
  • คาร์โนซีน ช่วยเพิ่มสมาธิและการจดจ่อ ลดความวิตกกังวล ชะลอปัญหาทางจิตใจ
  • มีคุณสมบัติเป็นบัฟเฟอร์ในระบบกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถในการออกกำลังกาย
  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการชะลอความชราของเซลล์ลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ 
  • ป้องกันการเกิดภาวะขาดเลือดสมองและหัวใจ ยังช่วยให้การเต้นของหัวใจดีขึ้น 
  • รักษาป้องกันและชะลอความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 
  • คาร์โนซีนอาจช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด และอาจช่วยกระตุ้นกระบวนการทำลายเซลล์ที่เสื่อมสภาพด้วย

อาหารที่พบคาร์โนซีน

  • อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อสัตว์ปีก ปลาบางชนิด
  • ในกล้ามเนื้อยึดกระดูก หรือ กล้ามเนื้อลายของหมู (skeletal muscle)
  • อาหารเสริมในรูปแบบต่าง ๆ
  • ผลิตภัณฑ์ซุปไก่สกัดเข้มข้นที่มีสารคาร์โนซีน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล ไขมัน และคอเลสเตอรอล

หน้าที่ของสมองส่วนต่างๆ

จะเห็นได้ว่าคาร์โนซีนมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ซึ่งจะปลอดภัยเมื่อได้รับจากอาหารธรรมชาติเช่นเนื้อสัตว์ต่างๆ ตามที่ที่ได้กล่าวไว้ แต่สำหรับท่านที่คิดจะทานเพื่อให้ได้รับคาร์โนซีนจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ จะต้องพึงระวังและควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพราะการรับประทานเกินปริมาณจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และสำหรับท่านที่เป็นเบาหวาน, ความดัน, ผู้ที่ตั้งครรภ์ และผู้ที่รับประทานยารักษาโรคหัวใจ, โรคเกี่ยวกับไต และเกาน์ ก็ควรรับประทานภายใต้คำแนะนำจากแพทย์ก่อนเช่นกัน

Visited 1 times, 1 visit(s) today

ใส่ความเห็น

Thai-safetywiki.com
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.