การเลือก คาร์ซีท ที่ถูกต้องและปลอดภัย

เตรียมตัวครับ อีก 120 วัน พรบ. จราจรทางบก ฉบับที่ 13

 

พรบ.จราจรทางบก ฉบับแก้ไข คนโดยสารต้องรัดเข็มขัดทุกที่นั่ง , เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี เด็กสูงไม่เกิน 135 ซม. ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2,000.-

 

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 มีสาระสำคัญแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก โดยเฉพาะ มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 123 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

 

คนโดยสาร

 

-คนโดยสาร คนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้า และที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์

 

-คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

 

-คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด

 

ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือคนโดยสาร มีเหตุผลทางสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งได้ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง แต่บุคคลนั้นต้องมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

 

พ.ร.บ.นี้มีผลใช้บังคับในอีก 120 วัน นับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

อ่านฉบับเต็มได้ที่ https://ratchakitcha2.soc.go.th

 

ทำไมจึงคาร์ซีท ( CAR SEAT ) จึงจำเป็น

จริงๆแล้วที่นั่งผู้โดยสารในรถยนต์ ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเด็ก ถึงบางยี่ห้อจะมีเข็มขัดนิรภัยสำหรับเด็ก แต่ก็ยังปลอดภัยไม่เพียงพอสำหรับเด็กเล็ก เนื่องจากขนาดของเข็มขัดนิรภัย ที่อาจจะหลวมเกินไป ทำให้อาจจะเลื่อนลง หรือไหลไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงบาดเจ็บได้ หากเกิดอุบัติเหตุ เข็มขัดนิรภัย ก็อาจจะไม่สามารถเซฟแรงที่ตัวเด็กจะพุ่งไปด้านหน้าได้ 

 

ประกอบกับ ข้อมูลสถิติ ตั้งแต่ปี 2556-2560 พบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เด็กและเยาวชนตั้งแต่แรกเกิด-19 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน รวม 17,634 ราย สาเหตุหลักมาจากอุบัติเหตุรถยนต์ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก เทียบได้กับจำนวนนักเรียนในโรงเรียนขนาดใหญ่ 7 โรงเรียน.

( ข้อมูลอ้างอิงจาก กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด )

 

คาร์ซีท มีกี่แบบ อะไรบ้าง

  1. Infant car

เป็นคาร์ซีท ที่ถูกออกแบบมาสำหรับทารก มักใช้ได้จนถึงน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม หรือสูงประมาณ 85 เซนติเมตร หรืออายุประมาณ 1 ปี โดยคาร์ซีทจะต้องวางหันไปทางด้านหลัง หรือ rear facing เท่านั้น Infant car seat มักจะมีฐานรองที่ยึดติดกับเบาะรถยนต์ ซึ่งบางรุ่นจะสามารถถอดออก และหิ้วคาร์ซีทออกมาจากฐานได้

Car Seat

  1. Convertible car seats

Convertible car seats สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงน้ำหนักประมาณ 18 กิโลกรัม ซึ่งสามารถใช้ได้ตั้งแต่การวางหันหลัง rear-facing หรือแบบหันหน้าออก forward-facing โดยสามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กเล็ก ไปจนถึงประมาณ 9 ขวบเลยทีเดียว โดยขนาดของคาร์ซีทแบบนี้จะค่อนข้างใหญ่ มักยึดติดกับฐาน และไม่สามารถยกถือได้แบบ Infant car seat

Car Seat1

  1. Booster seats

Booster seat เพิ่มความสูงให้เด็กเวลานั่งบนที่นั่ง เพื่อให้สาย safety belt พาดผ่านสะโพกไม่ใช่ท้อง และพาดผ่านหัวไหล่ ไม่ใช่คอเด็ก โดยสามารถเริ่มใช้ตั้งแต่น้ำหนัก 18-36 กิโลกรัม หรือความสูงประมาณ 100-150 เซนติเมตร หรือ อายุ 4-12 ปี โดยอาจมาพร้อมเบาะหลังหรือมาแค่ที่นั่งก็ได้

  Car Seat2car Seat3

 

 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ ควรเลือกให้ เด็กมีความสูงเพียงพอ ขาและเข่านั่งห้อยกับเบาะได้ สามารถนั่งได้ตัวตรงหลังพิงพนัก คาดเข็มขัดนิรภัยได้พอดี

 

เลือกคาร์ซีทที่ปลอดภัยควรเลือกแบบไหนดี ?

 

1.จุดยึดตัว 5 ตำแหน่ง

คือสามารถยึดไหล่ 2 ข้าง สะโพก 2 ข้าง และจุดรวมอยู่ที่ระหว่างขา การมีจุดยึด 5 ตำแหน่งจะทำให้ป้องกันการบาดเจ็บต่อเด็กได้ดีกว่าแบบ 3 ตำแหน่ง นอกจากนี้ การใส่ตัวยึดควรทำได้ง่าย สะดวก และสามารถปรับตามความเหมาะสมของขนาดเด็กได้

2.เลือกคาร์ซีทที่สามารถใช้งานแบบ rear-facing ได้นาน

เนื่องจาก เด็กควรนั่งหันไปทางด้านหลังจนอายุประมาณ 2 ขวบ จึงควรเลือกคาร์ซีท ที่สามารถปรับระดับได้ และยังสามารถหันไปทางด้านหลังได้อยู่

3.มีการปกป้องทางด้านข้าง

ควรเลือกคาร์ซีท ที่สามารถป้องกันการกระแทกจากทางด้านข้างได้ดี เนื่องจากอุบัติเหตุประมาณ 1 ใน 4 มาจากการกระแทกทางด้านข้าง จึงควรเลือกคาร์ซีท ที่สามารถปกป้องการกระแทกจากทางด้านข้างได้เป็นอย่างดี

4.เลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับขนาดของเด็ก

โดยสามารถสังเกตได้ว่า หลังจากเด็กนั่งคาร์ซีทแล้ว ยังได้รับการป้องกันอย่างเหมาะสมหรือไม่

5.เลือกคาร์ซีทที่ติดตั้งได้อย่างแข็งแรง

ติดตั้งคาร์ซีทสามารถทำได้ทั้งแบบยึดติดกับ Seat belt หรือ ติดกับ ISOfix ที่มีในรถ ซึ่งควรเลือกคาร์ซีท ที่เหมาะกับรถของเรา และมีขั้นตอนการติดตั้งที่ไม่ยุ่งยาก และมีความแข็งแรง

6.เลือกคาร์ซีทที่ผ่านการรับรองความปลอดภัย

7.เลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับขนาดของรถ เพื่อการยึดติดกับตัวรถที่เหมาะสม

 

การวางคาร์ซีทมี 2 แบบคือ

  • rear-facing คือการหันไปทางด้านหลัง ควรจัดวางท่านี้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 2 ขวบ เพื่อป้องกันกระดูกสันหลัง และป้องกันการบาดเจ็บของเด็ก
  • forward-facing คือการนั่งหันออกจากด้านหน้าแบบผู้ใหญ่ จะทำหลังเด็กมีอายุมากกว่า 2 ขวบหรือไม่สามารถนั่งหันไปทางด้านหลังได้แล้วจริงๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ หมอหน่อย (Tantawan Jomkwanjai. MD) Dr. Noi The Family )

Visited 1 times, 1 visit(s) today

ใส่ความเห็น

Thai-safetywiki.com
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.