การเลือกหน้ากากกันฝุ่น กันเชื้อโรค

ในปัจจุบันมีมลภาวะทางอากาศมากมาย ไม่ว่าจะเกิด จากฝุ่น เชื้อโรค ทั้งแบคทีเรีย และไวรัสต่างๆ ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หน้ากากอนามัยและหน้ากากป้องกันฝุ่น เป็นเครื่องมือนึ่งที่ช่วยป้องกันเราจากมลภาวะเหล่านี้ ซึ่งหน้ากากต่างๆก็มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมากมายและหลากหลายชนิด แต่รู้ไหมว่า สภาวะฝุ่นและเชื้อโรคในอากาศแต่ละประเภทมีลักษณะไม่เหมือนกัน ดังนั้น เราจึงควรต้องมีความรู้ ในการเลือกหน้ากากให้ถูกชนิดจึง แนะนำการเลือกหน้ากากกันโรค เพื่อการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ สร้างความปลอดภัยได้อย่างแท้จริง

แนะนำการเลือกหน้ากากกันโรค

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกหน้ากาก


1. จุดประสงค์ในการใช้หน้ากาก —- การใช้หน้ากาก โดยทั่วไปแล้วมีอยู่ 2 ลักษณะ คือ

1.ผู้ที่ไม่ป่วย ใช้สำหรับป้องกันการสูดหายใจเอาละอองมลพิษหรือเชื้อโรคเข้าร่างกาย

ควรเลือกหน้ากากโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมภายนอก เน้นหน้ากากที่มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะสมกับอนุภาคของฝุ่นและเชื้อโรค และความเสี่ยงในสถานที่นั้น

2.ผู้ป่วย ใช้สำหรับป้องกันการแพร่กระจายของละอองเชื้อโรคจากลมหายใจ ไอ หรือจาม ออกภายนอก

เน้นหน้ากากที่ป้องกันการซึมผ่านของเชื้อโรคผ่านการ ไอ จาม ได้ดี ใช้แล้วไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ และราคาไม่ควรแพงมากนัก

2. ประเภทของฝุ่นและเชื้อโรคที่จะป้องกัน

  • ฝุ่นทั่วไป หรือฝุ่นหยาบ — ฝุ่นโดยทั่วไป เป็นฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ ที่เราพอมองเห็นด้วยตาเปล่า อนุภาคมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5-10 ไมครอน สามารถกรองได้ด้วยหน้ากาก Surgical Mask ( 3 ชั้น ) หรือถ้าใหญ่เกิน 5 ไมครอน สามารถใช้หน้ากากผ้า หรือหน้ากากกันฝุ่นทั่วไปได้
  • ฝุ่นละเอียด หรือ PM2.5 — เป็นฝุ่นละเอียด ขนาดอนุภาคมีเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 2.5 ไมครอน มีขนาดเล็กมากพอที่จะหายใจเข้าไปสู่ปอด และซึมผ่านผนังปอดเข้าสู่กระแสเลือด ไม่สามารถกรองได้ด้วยหน้ากากผ้า หรือหน้ากากกันฝุ่นทั่วไป ต้องใช้หน้ากากที่มีแผนกรองความละเอียดสูง
  • ละอองเชื้อโรค ( Droplet ) — เชื้อโรคออกมากับน้ำมูก น้ำลาย ที่หายใจหรือไอจามออกมา โดยทั่วไป ฝอยละอองจะมีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน และจะฟุ้งในอากาศไม่นาน แพร่ไปไม่ไกลนัก ได้แก่ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก ซึงจริงๆแล้วตัวไวรัสเองมีขนาดเล็กมาก แต่เนื่องจากตัวไวรัสเองไม่สามารถลอยไปในอากาศได้เอง จำเป็นต้องเกาะไปกับพาหะ ถึงจะแพร่ไปสู่คนอื่นได้ ซึ่งเมื่อไวรัสรวมกับละอองแล้ว ขนาดอนุภาคจึงมากกว่า 5 ไมครอน ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยแผ่นกรองของหน้ากากอนามัยธรรมดา แต่ต้องมีการปิดที่มิดชิดกันการรั่วไหลของละอองเข้าทางรูของหน้ากาก
  • ฝุ่นเชื้อโรคในอากาศ Air-borne transmission — เชื้อโรคที่แพร่กระจายไปกับฝอยละอองขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน ซึ่ง ด้วยขนาดที่เล็ก ทำให้ฝอยละอองที่มีเชื้อนั้นกระจายไปได้ไกลในอากาศ โรคที่ติดต่อกันด้วยวิธีนี้ได้แก่ วัณโรคของระบบทางเดินหายใจ หัด (measles) ไข้อีสุกอีใส แบคที่เรียต่างๆ ไม่สามารถกรองได้ด้วยหน้ากากผ้า หรือหน้ากากกันฝุ่นทั่วไป ต้องใช้หน้ากากที่มีแผนกรองความละเอียดสูงเท่านั่น และเพื่อความปลอดภัย ควรเลือกใช้หน้ากากที่มีประสิทธิภาพการป้องกัน 90% ขึ้นไป เช่น หน้ากาก N95 / FFP2 


3. ความเสี่ยงจากความหนาแน่นของฝุ่นและเชื้อโรคในอากาศ

  • สภาพแวดล้อมนั้นๆ มีความเสี่ยงของการมีการแพร่ของฝุ่นและเชื้อโรคมากน้อยเพียงไร อาทิ หากบริเวณที่ใกล้จุดกำเนิด หรือในบริเวณที่แคบ ความเข้มข้นของฝุ่นและเชื้อโรคในอากาศก็จะมาก การเลือกหน้ากากก็ควรจะเลือกหน้ากากที่มีอัตราการรั่วต่ำ หรือมีค่า Average Protection Factor (APF)* สูง


4. สุขภาพของผู้ใช้

  • โดยทั่วไป หน้ากากที่มีค่า APF สูง จะหายใจได้ค่อนข้างลำบากในกรณีที่ ผู้ใช้มีปัญหาเรื่องการหายใจ อาจไม่สามารถใช้หน้ากากเหล่านี้ได้ จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้หน้ากากที่มีระบบพัดลม ช่วยในการหายใจ


* Average Protection Factor (APF) คือ ค่าที่ใช้วัดระดับการป้องกันของหน้ากากแต่ละชนิด ตามมาตรฐาน The Occupational Safety and Health Administration (OSHA) ของสหรัฐอเมริกา

ตารางแนะนำเลือกใช้หน้ากาก

แหล่งหาข้อมูลเพิ่มเติม

www.cdc.gov/niosh/npptl/pdfs/UnderstandingDifference3-508.pdf

www.cdc.gov/niosh/npptl/RespiratorInfographics.html

 

Visited 10 times, 1 visit(s) today

ใส่ความเห็น

Thai-safetywiki.com
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.