การลดน้ำหนัดด้วยวิธีการ IF

การลดน้ำหนักด้วยวิธี Intermittent Fasting (IF) เป็นวิธีที่กำลังได้รับความนิยมในการควบคุมน้ำหนักและสุขภาพ เป็นกระบวนการที่ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจะจำกัดเวลาการกินอาหารของตนเพื่อเพิ่มช่วงเวลาที่ไม่ได้รับประทานอาหาร ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย การเพิ่มระดับฮอร์โมนการเผาผลาญไขมัน (norepinephrine) และการลดระดับฮอร์โมนเกลือแร่ (insulin) เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมัน หรืออาจจะเรียกว่าการทำ IF เป็นการลดการกินอาหารที่ไม่จำเป็นก็ได้

การลดน้ำหนักด้วยวิธีการ IF มี 5 วิธี เราจะเรียกว่าช่วงเวลาการทำ IF ดังนี้

  1. 16/8 Method หรือเรียกอีกชื่อว่า “Leangains protocol” เป็นวิธีที่แพร่หลายที่สุด โดยในแต่ละวันจะแบ่งเวลาเป็นช่วง 16 ชั่วโมงที่ไม่รับประทานอาหารและช่วง 8 ชั่วโมงที่อนุญาตให้รับประทานอาหาร. ส่วนใหญ่คือการให้กินมื้อแรกในช่วงตอนกลางวัน และสุดท้ายในช่วงเย็น หรือส่วนใหญ่เรียกว่า ทาน 8 อด 16
  2. 5:2 Method วิธีนี้ประกอบด้วยการรับประทานอาหารปกติ 5 วันในสัปดาห์ และจำกัดปริมาณการบริโภคอาหารลงในช่วง 2 วันที่เหลือ โดยในวันที่จำกัดปริมาณการบริโภคอาหารลงนั้น ผู้ทำ IF จะรับประทานอาหารเพียงปริมาณ 500-600 แคลอรี่ต่อวันเท่านั้น
  3. Eat-Stop-Eat วิธีนี้เป็นการหยุดรับประทานอาหารเป็นเวลา 24 ชั่วโมงติดต่อกันในวันบางวันของสัปดาห์ โดยส่วนใหญ่เลือกจะทำ IF นี้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนในวันที่ไม่ได้หยุดรับประทานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ปกติ
  4. Alternate Day Fasting วิธีนี้เป็นการสลับระหว่างการรับประทานอาหารปกติกับช่วงที่จำกัดปริมาณการรับประทานอาหารลงในวันถัดไป หรือเรียกว่าอดวันเว้นวัน โดยในวันที่อดอาหารจะไม่รับประทานเลย หรือถ้ายังไม่ไหวให้คุณรับประทานอาหารเพียง 500-600 แคลอรี่ในวันที่จำกัดปริมาณอาหาร
  5. Warrior Diet วิธีนี้เป็นการรับประทานอาหารในช่วงเวลาหนึ่งในวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกอดในช่วงกลางวัน และกินมือใหญ่ในช่วงเวลากลางคืน โดยมีช่วงระยะเวลาการอดอาหารประมาณ 20 ชั่วโมง และทาน 4 ชั่วโมงซึ่งมักจะเป็นช่วงเย็น ในช่วงระยะเวลาการอดส่วนใหญ่จะดื่มเพียงน้ำเปล่าเท่านั้น

 

การทำ Intermittent Fasting (IF) ได้สำเร็จได้มีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่ง

  1. ความตั้งใจและความมุ่งมั่น การมีความตั้งใจและความมุ่งมั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการทำ IF ให้สำเร็จ คุณต้องมีความอดทนและพยายามปฏิบัติตามกำหนดเวลาการรับประทานอาหารของคุณ
  2. การวางแผนการกินอาหารที่เหมาะสม การเลือกอาหารที่มีปริมาณโปรตีนสูง และสารอาหารที่มีคุณค่าที่ดี เพื่อให้คุณมีพลังงานที่เพียงพอในช่วงเวลาที่ไม่ได้รับประทานอาหาร
  3. ความสมดุลของร่างกาย การตรวจสอบว่าคุณมีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจในการทำ IF หรือไม่ ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานอาหารหรือระยะเวลาการทำ IF เพื่อให้เหมาะสมกับร่างกาย
  4. การรู้ปริมาณอาหารที่พอเพียง การปรับปริมาณของอาหารและคุณภาพของอาหารที่คุณรับประทานในช่วงเวลาที่มีการรับประทาน เพื่อให้เพียงพอต่อช่วงเวลาที่จะต้องอดอาหาร
  5. การออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปรับสมดุลในการลดน้ำหนัก และรักษาสุขภาพใจและร่างกายได้เป็นอย่างดี
  6. การเตรียมสภาพจิตใจ การทำ IF อาจมีผลกระทบต่ออารมณ์และสภาพจิตใจ ความเครียดหรือความไม่สบายอาจเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้น ควรเรียนรู้การจัดการกับอารมณ์และสภาพจิตให้เหมาะสม

การทำ IF สำเร็จนั้นไม่ได้มาจากปัจจัยเดียว แต่มาจากการกำหนดเวลาการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการปรับปริมาณและคุณภาพของอาหารที่รับประทานอย่างต่อเนื่องและมีระเบียบ

อาหารมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการที่ทำให้การทำ IF ได้รับผลสำเร็จ การเลือกอาหารจะต้องคำนึงถึง

  1. เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ผักผลไม้, โปรตีนจากแหล่งที่มีสารอาหารดีเช่น เนื้อปลา, เนื้อไก่อ่อน, เครื่องเนื้อและถั่ว, และไขมันที่ดีเช่น ไข่, มะพร้าว, และมังคุด เป็นต้น จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ
  2. ควบคุมสัดส่วนอาหาร การควบคุมสัดส่วนอาหารโดยการแบ่งรับประทานมื้อเล็กๆเป็นครั้งคราว ช่วยให้คุณลดปริมาณอาหารที่รับประทานและควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
  3. จำกัดอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูง การลดการบริโภคอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูง จะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่รับประทาน และส่งผลให้ลดน้ำหนักได้ดี
  4. รับประทานอาหารตามช่วงเวลาที่กำหนด การรับประทานอาหารในเวลาที่เหมาะสมและเป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายคุ้นชิน และเฉลี่ยการใช้พลังงานจากอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. รับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผักใบเขียว, ผลไม้, และธัญพืช เป็นต้น จะช่วยให้อิ่มได้นานขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารเหล่านี้นานกว่าแป้งและน้ำตาล และยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

การเลือกอาหารเพื่อลดน้ำหนักมีผลต่อสุขภาพและน้ำหนักของร่างกาย โดยการเลือกอาหารที่เหมาะสมและสมดุล และการควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่รับประทาน เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปรับอาหารเพื่อลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในช่วงเวลาที่สามารถทานอาหารได้ ควรเลือกอาหารที่มีปริมาณโปรตีนสูง และค่าพลังงานที่พอเพียงโดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูงเพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับสารอาหารที่เพียงพอในช่วงเวลาที่เหลือก่อนถึงมื้ออาหารต่อไป

Visited 1 times, 1 visit(s) today

ใส่ความเห็น

Thai-safetywiki.com
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.